พระวินัยปิฎก มหาวรรค [3. วัสสูปนายิกขันธกะ] 112. ปหิตานุชานนา
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ บิดาของภิกษุเป็นไข้ ถ้าบิดานั้นจะพึงส่งทูตไป
ในสำนักของภิกษุผู้เป็นบุตรว่า ผมเป็นไข้ ขอบุตรของผมจงมา ผมประสงค์ให้มา
ภิกษุทั้งหลาย แม้บิดานั้นจะไม่ส่งทูตมา ก็ไปด้วยสัตตาหกรณียะได้ ไม่จำต้องกล่าว
ถึงเมื่อบิดานั้นส่งทูตมา พึงไปด้วยตั้งใจว่า เราจักแสวงหาคิลานภัต คิลานุปัฏฐากภัต
หรือคิลานเภสัช จักถามอาการ หรือจักพยาบาล แต่พึงกลับใน 7 วัน
112. ปหิตานุชานนา
ว่าด้วยทรงอนุญาตสัตตาหกรณียะเมื่อพี่ชายน้องชายเป็นต้นส่งทูตมา
[199] ภิกษุทั้งหลาย ก็ในกรณีนี้ พี่ชายน้องชายของภิกษุเป็นไข้ ถ้าพี่ชาย
น้องชายนั้นจะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุผู้เป็นพี่ชายน้องชายว่า กระผมเป็นไข้ ขอพี่ชาย
น้องชายของกระผมจงมา กระผมประสงค์ให้มา ภิกษุทั้งหลาย เมื่อพี่ชายน้องชาย
นั้นส่งทูตมา พึงไปด้วยสัตตาหกรณียะได้ แต่เมื่อพี่ชายน้องชายนั้นไม่ส่งทูตมา
ไม่พึงไป (เมื่อไปด้วยสัตตาหกรณียะ) พึงกลับใน 7 วัน
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ พี่สาวน้องสาวของภิกษุเป็นไข้ ถ้าพี่สาว
น้องสาวนั้นจะพึงส่งทูตไปในสำนักของภิกษุผู้เป็นพี่ชายน้องชายว่า ดิฉันเป็นไข้ ขอพี่ชาย
น้องชายของดิฉันจงมา ดิฉันประสงค์ให้มา ภิกษุทั้งหลาย เมื่อพี่สาวน้องสาวนั้น
ส่งทูตมา พึงไปด้วยสัตตาหกรณียะได้ แต่เมื่อพี่สาวน้องสาวนั้นไม่ส่งทูตมา ไม่พึงไป
(เมื่อไปด้วยสัตตาหกรณียะ) พึงกลับใน 7 วัน
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ญาติของภิกษุเป็นไข้ ถ้าญาตินั้นจะพึงส่งทูตไป
ในสำนักภิกษุว่า กระผมเป็นไข้ ขอพระคุณเจ้าจงมา กระผมประสงค์ให้มา
ภิกษุทั้งหลาย เมื่อญาตินั้นส่งทูตมา พึงไปด้วยสัตตาหกรณียะได้ แต่เมื่อญาตินั้น
ไม่ส่งทูตมา ไม่พึงไป (เมื่อไปด้วยสัตตาหกรณียะ) พึงกลับใน 7 วัน
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ บุรุษผู้อาศัยอยู่กับภิกษุเป็นไข้ ถ้าบุรุษนั้น
จะพึงส่งทูตไปในสำนักภิกษุว่า กระผมเป็นไข้ ขออาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายมา